วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564

คดีที่ 3 ตอนที่ 2





            ไม่รู้เป็นโชคของมาร์คหรือเปล่าที่ตำรวจที่มาทำคดีนี้ เคยเป็นลูกน้องเก่าพ่อเขา ส่วนเขากับแจ็คสันก็เป็นคนแจ้งความและกันพยานไว้ เลยได้อยู่ฟังด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้น บาดแผลที่ท้ายทอยและตามลำตัว มีลักษณะคล้ายกับบาดแผลในสองคดีที่มาร์ครับผิดชอบอยู่ 

            มาร์คไม่อาจจะเชื่อโยงว่าทุกอย่างเกี่ยวข้องกัน แต่เขาก็ไม่กล้ามองข้ามเช่นกัน

            “แม่บ้านให้การว่าปกติผู้ตายจะตื่นในเวลาช่วงราวๆตีห้า แต่วันนี้ไปเคาะห้องเมื่อช่วงแปดโมงไม่ได้ยินเสียงขานรับ จึงเข้าใจว่าผู้ตายไปที่สำนักงาน แต่ว่าช่วงเวลาสิบโมงผู้จัดการโฮมสเตย์มาตามที่บ้าน เธอจึงขึ้นไปดูที่ห้องอีกรอบ จึงรู้ว่าประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเปิดเข้าไป ไม่พบผู้ตายเลยกลับลงมาบอกผู้จัดการฯ”

            “ส่วนผู้จัดการโฮมสเตย์เล่าว่า เมื่อคืนมีหญิงสาวคนหนึ่งมาพบผู้ตาย บอกว่าเป็นเจ้านายเก่าของผู้ตาย เรียกผู้ตายออกมาพบที่หน้าห้องนอน พูดคุยกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็กลับออกไป มีภาพยืนยันเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดตรงทางเข้าก่อนถึงตัวบ้าน ส่วนกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านเสีย”

            “กล้องเสีย? แล้วผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นเจ้านายเก่าคือใคร”

            “ครับ แม่บ้านบอกว่าเสียมาสักพักแล้ว แต่ช่างยังไม่ว่าง ผู้ตายกับแม่บ้านก็ลืม จึงไม่ได้ซ่อมมานาน ส่วนผู้หญิงคนนั้น ผู้จัดการฯบอกว่าผู้ตายเรียกเธอว่าคุณหนู”

            “แจ็คสันไปตามแจบอมมาหน่อย” ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องนี้ มาร์คนิ่งฟังมาโดยตลอด แต่พอมีคนพูดถึงคุณหนูเจ้านายเก่าของผู้ตาย มาร์คก็นึกถึงแจบอมขึ้นมาทันที 

            “ส่วนคนสวนให้การว่าตอนเช้าที่ตื่นมาทำงาน เขาพบกับสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งที่ตกอยู่ แต่คิดว่าเจ้านายของตนคงทำตกไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่ออกตามหาแขกที่มาเข้าพักที่หายตัวไปจึงคิดจะเอาคืนให้เมื่อพบหน้า”

            “แต่ผมถามจากผู้จัดการฯและป้าแม่บ้านแล้ว ในตอนกลางคืนที่เจอกันครั้งสุดท้าย ยังเห็นผู้ตายสวมใส่อยู่”

           “งั้นแปลว่าผู้ตายออกไปพบฆาตกรที่สวนด้านหลังและน่าจะเกิดการฉุดกระชาก หรือไม่ผู้ตายก็ตั้งใจจะทำตกไว้เพื่อเป็นเบาะแสในการตามหาตัวเธอ”

           “มาร์ค แจบอมมาแล้ว”

            “แจบอม นายพอจะมีรูปญาติของนาย คนที่แกล้งแบมแบม เมื่อวานหรือเปล่า”

            “ไม่มี แต่ฉันหาให้ได้ รอแป๊บ” แจบอมหยิบมือถือขึ้นมาเปิด Facebook ที่ไม่ค่อยอัปเดตอะไรของตัวเองออกมา     “ทำไมถึงขอดูรูปยัยนั่น ยัยนั่นเกี่ยวอะไรงั้นเหรอ? เจอแล้ว”

            “ยังไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม” มาร์ครับมือถือมาและส่งให้ตำรวจอีกนายไปสอบถามผู้จัดการฯ ไม่นานก็ได้รับคำยืนยันว่าเมื่อคืนญาติแจบอมคนนี้มาที่นี่จริงๆ

            นอกจากจะไปเจอแบมแบมและหาเรื่องแกล้งแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังมาหาผู้ตายอีก 

            เธอมาหาตายด้วยเรื่องอะไรกัน

            “ขอบใจมากนะแจบอม” มาร์คส่งมือถือคืน และพยักหน้าให้แจ็คสันพาออกไปแจบอม “มีใครพอจะยืนยันได้ไหมว่า หลังจากผู้หญิงคนนี้ออกไป ผู้ตายอยู่ที่ห้องนอนหรือไปที่ไหนอีกไหม หรือเธอกลับเข้ามาหาผู้จายอีกไหม”

            “ไม่มีครับ”

            “คงต้องไปตามตัวเธอคนนี้มาแล้ว” มาร์คไม่อาจก้าวก่ายอะไรได้มาก เขากลับออกมาพร้อมแจ็คสันที่รออยู่ด้านนอก

           “มาร์ค เมื่อวานอ่ะ กูสังเกตอะไรได้อย่างหนึ่ง มึงอยากฟังไหม?”

            “อืม เล่ามา เผื่อจะเป็นประโยชน์”

            “เมื่อวานตอนที่เราเจอแบมแบมที่ถูกเอาไปขัง ปฏิกิริยาของผู้ตายดูตกใจเกินกว่าพวกเรา ดูจะออกแนวหวาดกลัวเสียด้วยซ้ำ และเธอก็ไม่ได้มาติดตามถามไถ่อะไร กลับหนีหายไปหลังจากที่เราเจอแบมแบมแล้ว และตามที่แจบอมเล่าว่าแบมแบมเคยเจอแบบนี้จากเจ้านายของผู้ตาย เหตุการณ์ตอนนั้นมันมีอะไรรุนแรงหรือเปล่าวะ ไหนจะคนที่แกล้งแบมไปพบกับผู้ตายตอนกลางคืนอีก”

            “จะบอกว่าเป็นการฆ่าปิดปาก?”

            “ก็ไม่อาจจะชี้ชัด อีกอย่างแบมแบมไม่เอาความ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ป่ะวะ ฆ่าคนตายเลยนะ แต่ว่าจะมองข้ามประเด็นนี้ไปไม่ได้เหมือนกัน” มาร์คพยักหน้า เขาไม่อาจพูดอะไรออกมาตอนนี้ได้ เขาอยากเรียบเรียงความคิด ที่เขาคิดไว้เมื่อคืนนี้ต่อด้วย

            แต่มาร์คยังไม่ทันจะมีเวลาอยู่กับตัวเอง เขาก็ถูกชักชวนให้ไปหาเบาะแสเพิ่มเติมอีก เมื่อบาดแผลจากคดีนี้ มันไม่ใช่แค่คล้ายกับสองคดีที่เขาทำ แต่วิธีฆ่าเป็นวิธีเดียวกัน

 

 

7th

 

 

            เพราะเพิ่งเกิดคดีฆาตกรรมภายในที่พัก หลายคนถูกกันไว้เป็นพยาน และห้ามออกนอกพื้นที่ ส่วนมาร์คต้องพาลูกน้องที่ได้ข้อมูลไปร่วมหาเบาะแสในช่วงค่ำหลังจากทราบเรื่อง 

            พวกเขาเลือกที่จะไปหาบริเวณที่พบสร้อยข้อมือที่ผู้ตายทำตกไว้ ถัดจากสวนหลังบ้านของผู้ตายเป็นป่ารกทึบ เหมาะแก่การฆาตกรรมอำพรางที่สุด เพราะในคืนเกิดเหตุ ไม่มีใครได้ยินเสียงผู้ตายขอความช่วยเหลือ 

            นายตำรวจหนุ่มหลายคนต่างช่วยกันส่องไฟฉายไปทั่วเพื่อหาร่องรอยการก่อเหตุ รวมถึงอาวุธที่ใช้ลงมือ

            แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น

แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น

 

 

 

 

V

เปิดฟังก่อนอ่าน


^

(คำเตือน!!! ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการฟังเสียงเพื่อสร้างจินตนาการ….)

สำหรับคนอ่านที่ต้องการเพิ่มอรรถรสในการอ่าน กดที่คำว่า เปิดฟังก่อนอ่าน ได้เลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            เสียงฮัมเพลงกล่อมเด็กดังขึ้นในความมืดสลัวแบบจับทิศทางไม่ได้ดังขึ้น แสงสว่างจากไฟฉายสาดส่องไปตามทิศทางที่เสียงทำนองเพลงดังขึ้นมาทีละท่อน ทำให้นายตำรวจที่ติดตามมาขนลุกเกรียว ต่างหยุดชะงักฝีเท้าที่จะก้าวต่อไป แต่เดินเข้ามาใกล้หันหลังชนกันแทน มีเพียงแค่สารวัตรหนุ่มที่หลับตาลงเพื่อแยกแยะทิศทางของเสียง 

            เขาเชื่อว่าต้องมีคนล่อพวกเขามาที่นี่ ไม่ใช่แค่เบาะแส แต่เพื่อท้าทายเขา เสียงกล่อมเด็กดังคลอมากับสายลมเย็นๆภายในป่า มีบางคราวที่มาพร้อมกับเสียงกลั้วหัวเราะ คลายกำลังสุขใจหาใดเปรียบ มีเพียงแค่มาร์คที่ไม่รู้สึกสนุกด้วยสักนิด มือเรียวกำเข้าหากันแน่น เขาตั้งปณิธานในใจว่าจะจับตัวคนร้ายที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมทารุณนี้มาให้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม

            “แบ่งคนออกเป็นสามกลุ่ม ไปทางขวาและทางซ้าย ส่วนฉันจะไปทางนั้น ขอคนติดตามสองคน ไป” ชายเสื้อด้านหลังของมาร์คถูกรั้งเอาไว้ให้ต้องชะงักเท้า และหันกลับมามองคนอื่นๆที่ไม่ขยับตัวสักคนเดียว

“พี่เราจะไปจริงๆเหรอ

ถ้าเกิดว่า…”

“ว่าอะไร!

ปืนพวกนายก็มีคนละกระบอก ยังจะกลัวอะไรกันอีก” มาร์คถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทั้งที่พวกเขามีกันไม่ต่ำกว่าสิบคน ยังจะกลัวอะไรกันอีก

“ผมไม่กลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ แต่ผมกลัวว่าจะไม่ใช่คน…”

“หลบ!” มาร์คผลักลูกน้องของตนให้หลบพ้นทาง ใครจะยืนอยู่เฉยๆตรงนี้ก็ตามสบาย เขาต้องการให้ทุกอย่างคืบหน้า

ไม่ต้องการให้คนร้ายรอดตัวไปได้อีก เขาอยากจับมันให้ได้ก่อนที่จะมีรายที่สี่ ที่ห้าตามมา 

มาร์คเพิ่งก้าวขาไม่ทันถึงห้าก้าว เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาอีกฝั่ง เขาหยุดชะงักเล็กน้อย และเดินต่อไป ส่วนคนที่เหลือเมื่อไม่มีมาร์คอยู่ด้วยแล้ว ก็มีเพียงแค่รีบตามมาร์คไปหรือทำตามคำสั่งมาร์คเท่านั้น

“มันหัวเราะเยาะตำรวจอย่างพวกนายขนานี้ ยังจะกลัวอีกไหม!!! แยกย้ายกันไปตามตัวมันให้เจอ!!” มาร์คหัวเสียกับความขี้ขลาดของลูกน้องตน เขาหันกลับมาตวาดใส่จนลูกน้องและตำรวจที่ติดตามมากลัวมาร์คยิ่งกว่าเสียงปริศนานั่น

             “ครับ!!” ตำรวจที่ตามกันมา แยกกันออกเป็นสามกลุ่มและวิ่งกันไปคนละทางเพื่อหาเบาะแส 

มาร์คคิดว่าเสียงที่พวกเขาได้ยิน มันมาจากการอัดใส่มือถือหรือเครื่องบันทึกเสียง เขาพยายามมองหาแหล่งกำเนิดเสียงที่ปั่นประสาทเขาเมื่อครู่ และเบาะแสอื่นๆ พลางคิดไปด้วยว่าฆาตกรต้องการจะบอกอะไรกับเขาหรือเปล่า หรือคนที่บอกเขา จะไม่ใช่ฆาตกรเหมือนกับคดีนั้น ที่คนที่นัดเขาไปพบที่ป่าท้ายหมู่บ้านจะให้เบาะแสเขากัน 

สรุปแล้วคนๆนี้คือใครกัน แล้วทำไมถึงเรียกเสียงเพลงกล่อมเด็ก และใช้เสียงผู้ชายที่ผ่านโปรแกรมแปลงเสียงมาอีก 

“พี่มาร์ค” มาร์คหันไปตามเสียงเรียกและส่องไปตามทิศทางนั้น เขาพบเข้ากับรอยเลือดที่เริ่มแห้ง

“พบอาวุธไหม?” นายตำรวจคนนั้นส่ายหน้า

“หาต่อไป เผื่อจะเจออะไรมากกว่านั้น”

มาร์คเสียเวลาอยู่ในป่าเกือบจะค่อนคืน ถึงเจออาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์ที่ใช้อัดเสียงทั้งสามเครื่อง แต่ก็ยังจับฆาตกรไม่ได้อยู่ดี เขาเลยได้แต่เรียกลูกน้องของตนกลับออกมาก่อนเมื่อฟ้าเริ่มสว่าง และให้คนที่ชำนาญทางและตำรวจในพื้นที่ดำเนินการค้นหาเบาะแสอื่นๆต่อไป

“พี่มั่นใจไหมว่าคนร้าย มันคือคนเดียวกันกับสองคดีก่อนหน้า เพราะถ้าเป็นฆาตกรเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุจริงๆทั้งสามคนนี้ก่อเรื่องอะไรร่วมกันไว้กันแน่” มาร์คไม่อาจตอบคำถามของลูกน้องตนได้ในตอนนี้ 

เขากำลังไล่เรียงทุกอย่างในหัว ตั้งแต่รายละเอียดของคดีแรก คดีที่สอง และคดีล่าสุด พยายามหาจุดเชื่อมโยงที่นอกเหนือจากลักษณะการลงมือฆ่า 

เรื่องของความสัมพันธ์ คดีแรกกับคดีที่สอง ผู้ตายทั้งสองคนเป็นเพื่อนสมัยมัธยมกันและเลิกติดต่อกันตอนมหา’ลัย ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไมสองคนนี้จึงไม่ติดต่อกันอีก ก่อนผู้ตายในคดีแรกจะเสียชีวิต ทั้งคู่ได้พบกัน และคุยกันแบบสนิทสนมเหมือนในวัยเด็ก แต่จะเลี่ยงการพูดถึงเรื่องที่ผู้ตายในคดีที่สองไปบ้านของผู้ตายในคดีแรก 

เรื่องภายในบ้านของผู้ตายคดีแรก พวกเขาก็สืบกันอยู่ว่ามีอะไรกันแน่ แต่มันแย่ตรงที่ คนในบ้านล้วนเสียชีวิตไปหมด ส่วนแม่บ้านที่เคยทำงานที่บ้านหลังนั้น พวกเขายังหาไม่เจอ

ส่วนคดีที่สอง พวกเขาได้เบาะแสเพิ่มเติมว่า ก่อนที่พวกเขาจะไปพบโทรศัพท์เครื่องนั้นที่ตกอยู่ข้างตู้ พยานที่นัดเขาไปพบในป่า เห็นใครคนหนึ่งเดินเข้าไปที่บ้านหลังนั้นก่อนพวกเขาจะมา และกลับออกมา โดยใช้เวลาภายในบ้านไม่นาน พวกเขาสืบเรื่องนี้ต่อจากเพื่อนคนอื่นๆ โดยการนำรูปมือถือและเคสโทรศัพท์ให้กลุ่มของเพื่อนผู้ตายดู ทุกคนต่างยืนยันว่าเป็นมือถือที่ผู้ตายรายแรกใช้ในสมัยมัธยม 

ในเรื่องของโทรศัพท์จึงสรุปได้ว่ามีคนจงใจเอามันไปซ่อนและเปิดเผยในคราวเดียวกัน

แต่ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเป็นฆาตกรหรือใครที่มีสิ่งของของผู้ตายรายแรก

หรือคนที่เอาโทรศัพท์ไปซ่อนจะคือเหยื่อในคลิปนั้น ถ้าเป็นเด็กในคลิปนั้นจริง จากวันที่ผู้ตายสองคดีแรกเรียนมัธยมจนกระทั่งจบมหา'ลัย ระยะเวลามันก็ผ่านมามิใช่น้อยเลย ทำไมเพิ่งจะเปิดเผยเอาตอนนี้

หรือฆาตกรต้องการแก้แค้นให้เหยื่อ ส่วนเหยื่อในคลิปก็เป็นคนเอาหลักฐานชิ้นนั้นมาให้พวกเขาเพื่อบอกว่าสิ่งที่ฆาตกรทำ หวังเพียงล้างแค้นให้กับตน หรือต้องการจะให้เขาเชื่อมโยงสองคดีนั้นเข้าด้วยกัน

มาร์คมีข้อสันนิษฐานมากมายอยู่ในหัวเต็มไปหมด จนตอนนี้หัวเขาจะระเบิดตัวเองอยู่แล้ว

“สารวัตร...สารวัตรครับ”

“หือ? มีอะไรหมวด”

“ผู้หญิงที่พบกับผู้ตายถูกพาตัวมาแล้วครับ สารวัตรจะเข้าไปฟังไหมครับ”

“ไม่ล่ะ หมวดจัดการเถอะ แล้วค่อยมารายงานผม” มาร์ครู้สึกว่าตัวเองต้องหยุดพักสักเล็กน้อย ไม่เช่นนั้นหัวสมองเขาคงรับไม่ไหวอีกแล้ว ร่างของนายตำรวจหนุ่มยืนขึ้นจากเก้าอี้ด้วยอาการซวนเซ โชคดีที่จับที่เท้าแขนของเก้าอี้ไว้ทัน มาร์คจงไม่ล้มหน้าทิ่มจากอาการหน้ามืด 

“ไม่ไหวก็พักบ้างเถอะสารวัตร” เสียงที่คุ้นหูและคำพูกวนๆแบบนี้ก็คงทีแค่แจ็คสันคนเดียวเท่านั้น

“มึงมาทำไม”

“แบมเป็นห่วงมึง เห็นมึงไม่กลับไปเลย กูก็เลยอาสามาดูให้ และเอาข้าวมาส่ง”

“ขอบคุณมาก”

“ไม่เป็นไร กินข้าวเถอะ แล้วนอนพักสักหน่อย ได้ข่าวว่ามึงยังไม่ได้นอนเลย”

“ข่าวไวดีนี่”

“แน่นอนสิ ระดับกูน่ะ เรื่องแค่นี้กระจอกมาก”

“คนอื่นๆเป็นไงบ้าง”

“มึงก็รู้ว่าชาวอพาร์ตเมนท์เรามันเป็นคนยังไง การถูกสั่งให้อยู่ในที่พัก ไม่ให้เพ่นพ่านไปไหน ก็ไม่ต่างจากอยู่ที่ตึกเท่าไหร่หรอก ทุกคนปกติดี”

“แล้วกูไม่อยู่ แบมแบมอยู่กับใคร”

“ยูคยอมย้ายไปอยู่ด้วย มึงไม่ต้องห่วง”

“อ้อ”

“กูยังไม่อยากถามเรื่องงานของมึงในตอนนี้หรอกนะ ไม่อยากให้หัวมึงคิดไรมากไปกว่านี้ พักสักนิดแล้วค่อยตื่นมาตอบคำถามกู แล้วก็คิดเรื่องคดี กูรู้ว่าในหัวมึงตอนนี้ อะไรๆมันโยงใยมั่วไปหมด เฮ้อ ไอ้มาร์คนะไอ้มาร์ค อุตส่าห์ได้มาเที่ยวทั้งที ดันมาเจอคดีที่เหมือนจะเกี่ยวกับสองคดีก่อนหน้าที่มึงทำอยู่อีก หรือคนร้ายมันต้องการเล่นสนุกกับมึงกันวะมาร์ค”

“กูไม่สนุกด้วย”

“กลัวแล้วจ้าพ่อ”

“แต่กูว่ามันไม่ได้ทำเพราะจุดประสงค์นั้นหรอก ถ้าสามคดีมันเกี่ยวกันจริงๆ มันต้องมีจุดเชื่อมโยงกันดิวะ แต่มันคืออะไรกันแน่กูต้องรู้ให้ได้ และต้องลากคอมันออกดำเนินคดีให้ได้!!”

“ใจเย็นๆก่อนเพื่อน กูไม่ได้อยากให้มึงเครียด กินข้าวไปๆ”

 

 

7th

 

 50%



ฝากคอมเมนท์ในเด็กดี ในคดีที่ 3 ตอนที่ 2 ด้วยนะคะ 

อีก 50% เริ่มรับลิ้งค์ตอน 2 ทุ่มตรง 27/1/2021


วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562

ซ่อน 19








แบมแบมตามมาร์คไม่ทัน ทั้งเพราะอ่อนประสบการณ์กว่า ทั้งอีกคนกำลังอารมณ์ไม่คงที่แบบนี้ จูบที่มอบให้กันเลยไม่มีความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่ 
มาร์คไม่ใช่คนใจร้อนเลยสักนิดเวลาที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่รู้จักกันมา แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ตัวตนของคนเราบางทีก็ออกมาเมื่อยามที่โกรธ 
แต่สำหรับมาร์ค เขาไม่ได้โกรธแต่เขากำลังหึงต่างหากที่มีคนมาเจ๊าะแจ๊ะกับแบมแบมน่ะ ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว 
เขาหึง หึงมากเลยแหละ 
“มะ...มาร์ค” มาร์คผละจูบออกเพราะแรงประท้วงอันน้อยนิดของคนที่เขาจูบ แต่จมูกโด่งยังคงคลอเคลียกับแก้มใสแบบที่ไม่ยอมจะผละออกไปง่ายๆ มาร์คผ่อนลมหายใจตัวเองเป่าแก้มอีกฝ่ายเบาๆ พยายามคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้มันเดือดเกินไปกว่านี้ เพราะคนที่เจ็บมันคือคนที่เขายืนจูบจนหายใจไม่ทัน 
แบมแบมไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของเขาหรือของใครๆ มาร์คพยายามเตือนตัวเองว่าอย่ารุนแรงกับคนในอ้อมกอด 
แต่พอภาพนั้นมันกลับมาอีก มันก็อดเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาอีกไม่ได้ 
“ขอโทษ” มาร์คพูดเบาๆที่ข้างหูก่อนจะกอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น ลูบศีรษะของแบมแบมที่ซบหน้าลงบนไหล่กว้างของเขา แบมแบมหอบหายใจหนักๆ ดวงตากลมมีน้ำตาใสคลออยู่ที่หน่วยตา
ยอมรับเลยว่ากลัวมาร์คมาก กลัวจริงๆ มาร์คไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยรุนแรง ไม่เคยทำให้เขารู้สึกกลัวได้ขนาดนี้มาก่อน 
ความเปียกชื้นที่ไหล่ทำให้มาร์ครู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำผิดกับคนตัวเล็ก เขาไม่น่าทำอะไรแบบนั้นเลย ถึงจะอยากเอาชนะใครต่อใครหรืออยากจะชนะคนทั้งโลกว่าได้ครอบครองคนในอ้อมกอด แต่เขาต้องนึกถึงจิตใจของแบมแบมบ้างว่าอีกคนยินยอมและเต็มใจหรือเปล่า เพราะถ้าเมื่อกี้ที่เขาทำลงไป มันไม่ต่างอะไรกับการข่มขืนแบมแบมเลย 
แล้วถ้าเหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้น มีแต่เราทั้งคู่ที่จะต้องเสียใจ และคงเป็นเขาที่ต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปเพราะความโกรธและสร้างความเจ็บปวดให้อีกฝ่าย 
มาร์คลูบลงบนแผ่นหลังเล็กๆของอีกคน ปลอบประโลมผ่านสัมผัส ไม่มีคำพูดระหว่างเรา เพราะสิ่งที่มาร์คทำเมื่อตะกี้ มันมีเพียงสัมผัสที่จาบจ้วงกับอีกคนทั้งนั้น 
แค่คำว่าขอโทษมันคงไม่พอ 
มาร์คจูบลงบนแก้มและข้างขมับ ลามมาถึงตนคอ ยามที่จมูกโด่งและริมฝีปากลากผ่านไป มันเหมือนตัวกระตุ้นชั้นดีให้คนตัวเล็กหายใจถี่ขึ้น 
มาร์ครู้จุดอ่อนของแบมแบมดี เขารู้ว่าทำยังไงถึงจะให้แบมแบมมีความสุข และรู้ดีว่าจุดไหนที่ทำให้แบมแบมมีอารมณ์ 
คนตัวสูงไม่ดูดเม้มที่ลำคอเพียงแค่จูบลงหนักราวกับต้องการจะย้ำเตือนและย้ำกับตัวเองว่าแบมแบมอยู่ตรงหน้าคือคนของเขา ไม่ได้หายไปไหน 
เสื้อนักศึกษาหลุดออกจากตัวและโยนทิ้งกับพื้นห้องน้ำจากฝีมือคนโตกว่า มาร์คจูบลงบนไหล่สวย ดูดเม้มจนเกิดรอยขึ้นมา ที่กล้าทำเพราะถ้าแบมแบมใส่เสื้อคงไม่เห็น แต่ถ้าก้มแล้วไม่ระวังเหมือนคราวของกันต์ คงรู้อยู่แก่ใจว่ามันคือรอยอะไร 
ฟันซี่คมกัดลงบนรอยแดงนั่นจนแบมแบมร้องออกมาก่อนที่ลิ้นร้อนจะเลียเบาๆ 
“รู้ใช่ไหมว่าแฟนตัวเองชื่ออะไร? แน่นอนว่าคนตัวเล็กพยักหน้าให้อย่างกระตือรือร้น 
มาร์คเก่งในเรื่องการเร้าอารมณ์ให้คนไม่ประสีประสาอย่างเขาควบคุมอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาเพราะคนๆนี้ไม่ได้ 
ถ้าไม่ใช่มาร์คแบมแบมคงไม่เป็นแบบนี้
มาร์คดันไหล่ให้คนตัวเล็กนั่งลงชักโครกที่ปิดฝา จับมือแบมแบมขึ้นมาวางลงบนหัวเข็มขัดของตัวเอง 
“ถ้ารู้ งั้นทำให้มาร์ครู้หน่อยได้ไหมว่าคนเป็นแฟนกัน เขาต้องทำยังไง?” 
เข็มขัดยี่ห้อแพงถูกดึงออกแล้วทิ้งไว้ที่พื้นอย่างไม่ใยดี ซิปกางเกงถูกรูดลงอย่างช้าๆ ตากลมช้อนตามองคนที่กำลังมองการกระทำเขาอย่างตั้งใจ กางเกงถูกดึงลงด้วยฝีมือของมาร์คก่อนที่มือเล็กจะสัมผัสเข้ากับอะไรสักอย่างที่ตื่นตัว 
แบมแบมเปลี่ยนมาคุกเข่าลงกับพื้นและวางมือลงบนแก่นกายของคนตัวกว่าด้วยมือทั้งสองข้าง 
เสียงครางต่ำๆเพราะเด็กน้อยกำลังปลุกเร้าอารมณ์ของคนที่ยืนอยู่ได้อย่างน่าพอใจ แบมแบมไม่เพียงใช้มือสองข้างแต่ลิ้นเล็กๆนั้นยังเล่นกับส่วนหัวจนมาร์คต้องจับไหล่เล็กแน่น 
“พอก่อนแบม” มาร์คดันไหล่อีกคนออก เมื่อถูกปลุกเร้าจนมาร์คเกือบจะปลดปล่อยออกมา มาร์ครูดแก่นกายตัวเองสองสามทีก่อนจะปล่อยน้ำรักสีขาวออกมาจนเลอะด้านหลังและเกือบโดนไหล่ของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า 
มาร์คฉุดคนตัวเล็กให้ยืนยืนขึ้นก่อนจะจูบลงข้างขมับหนักๆ
“เก่งมากเด็กดี” มาร์คกล่าวชื่นชมเด็กในอ้อมกอดก่อนที่เอวเล็กจะถูกหมุนให้พลิกตัวไปอีกด้าน 
กางเกงและชั้นในถูกดึงลงจนท่อนล่างเปลือยเปล่า ทั้งตัวแบมแบมเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวบางๆเพียงตัวเดียว มาร์คจูบลงบนหัวไหล่มนพร้อมกับมือที่เอื้อมไปปลุกปั่นด้านหน้าของคนตัวเล็กให้มีอารมณ์ร่วมไปด้วยกัน 
ส่วนนั้นของมาร์คถูไถไปกับสะโพก มาร์คจับให้มันจ่ออยู่ที่ปากทาง แต่ไม่กระแทกกระทั้นหรือสอดใส่เข้าไป เหมือนต้องการจะกลั่นแกล้งให้แบมแบมเป็นฝ่ายร้องขอก่อน 
มาร์คหยุดมือที่ปลุกปั่นอารมณ์แบมแบมและจูบลงบนคอของคนตัวเล็กแรงๆทั้งๆที่แบมแบมใกล้จะปลดปล่อยเต็มที แต่มาร์คไม่ทำต่อ กลับไปทำอย่างอื่นแทน
ป๊อก! 
เสียงเปิดกระป๋องน้ำอัดลมทำให้แบมแบมสงสัยจนต้องหันไปมอง มาร์คยื่นมันมาให้
“ถือไว้ ถ้าน้ำไม่หมดกระป๋องอย่าคิดว่ามาร์คจะหยุด” กระป๋องน้ำอัดลมถูกยัดลงบนมือก่อนที่มาร์คจะเริ่มจัดการปลุกปั่นและเร้าอารมณ์แบมแบมอีกครั้ง ทุกอย่างสานต่อกันอย่างง่ายดายเพราะแบมแบมอยากจะปลดปล่อยจนเกือบจะช่วยตัวเองต่อหน้ามาร์ค 
แต่มีหรือที่คนโตกว่าจะยอมให้ทำแบบนั้น มือเรียวจับเข้าที่ส่วนนั้นของคนตัวเล็กพร้อมกับของที่เองจ่ออยู่ช่องทางด้านหลัง 
มาร์คปลุกปั่นทั้งข้างหน้าและข้างหลังจนแบมแบมเกือบจะปลดปล่อยออกมา
น้ำอัดลมในกระป๋องกระฉอกออกมาตามแรงของคนด้านหลัง แบมแบมแทบจะบีบกระป๋องน้ำอัดลมจนบุบบี้คามืออยู่แล้ว ถ้าคนด้านหลังไม่หยุดทุกอย่างลงก่อน
“มะ...มาร์ค…” แบมแบมเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงเว้าวอน 
“หืม? มีอะไรครับคนดี” มาร์คเอื้อมมือไปทัดผมที่ชื้นเหงื่อของแบมแบมให้ ยกยิ้มมุมปากเหมือนรอฟังสิ่งที่แบมแบมร้องขอแบบใจจดจ่อ 
“ฮืออ อย่าแกล้ง” มาร์คยกขาข้างหนึ่งของคนด้านหน้าก่อนกระแทกแก่นกายเข้าไปให้ลึกแล้วหยุดจนแบมแบมร้องออกมาอีกรอบ
“ไม่ได้แกล้งเลย” คนพูด ลอยหน้าลอยตาตอบ หยุดทุกอย่างเพื่อฟังคำร้องขอจากอีกฝ่าย 
“เข้ามาอีก เข้ามาอีกได้ไหม” 
“เข้ายังไง อย่างงี้เหรอ?” มาร์ครั้งเอวแบมแบมก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้าหาช่องทางรักรุนแรงกว่าทุกครั้ง เสียงครางอื้ออึงดังไปทั่วห้องน้ำของชั้นผู้บริหาร น้ำอัดลมในกระป๋องกระฉอกออกมาเปรอะเปื้อนจนเหนียวมือคนถือ
“ชู่ว เบาๆหน่อยค่ะ เดี๋ยวมีคนได้ยิน” มาร์คดึงกระป๋องในมือที่อ่อนแรงนั้นวางลงบนชักโครก ก่อนจะพลิกตัวอีกคนให้หันมามองกัน คนตัวสูงโน้มกายจูบลงบนปากอิ่มที่เริ่มหายใจทางปากยากเหตุการณ์เมื่อตะกี้ อุ้มอีกคนให้เกี่ยวเอวเอาไว้ คนตัวเล็กก็เหมือนจะรู้หน้าที่ ถึงได้ใช้แขนคล้องคอเขาแล้วซบหน้าลงใกล้ๆ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า ถึงได้เป่าลงบนคอและจูบลงบนคอเขาเบาๆ 
มาร์คกระแทกส่วนนั้นเข้าไปให้แรงกว่าแรงกัดที่แบมแบมเล่นซน กัดเขาคืนที่กัดไหล่อีกฝ่ายเมื่อกี้ 
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกพร้อมกับทั้งสองร่างที่พากันออกมา มาร์คจับแบมแบมพลิกตัวไปทางกระจก กระแทกกายเข้าใส่ จนแขนเล็กที่ค้ำไว้กันอ่างล้างหน้าสั่นเพราะแรงกระแทกจากคนด้านหลัง 
สีหน้ามาร์คในกระจกนั่นทำให้แบมแบมต้องเม้มปากด้วยความเขิน ตั้งแต่ทำรักด้วยกันมา เขาไม่เคยเห็นสีหน้าของมาร์คได้ชัดเจนขนาดนี้มาก่อน 
เสียงหอบหายใจผสมกับปนเปกันจากคนทั้งคู่ที่ปลดปล่อยไปมากกว่าหนึ่งรอบ มาร์คยังคงเกี่ยวเอวคนหน้าหวานเอาไว้ไม่ทรุดลงกองกับพื้น จูบลงบนกลางศีรษะและลูบผมเบาๆอย่างทะนุถนอมต่างจากเมื่อกี้ที่สำหรับแบมแบมครั้งนี้จะรุนแรงที่สุดตั้งแต่เรามีเซ็กส์กัน






อ่านแล้วอย่าลืมกลับไปคอมเมนท์ในเด็กดีด้ยนะจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ซ่อน 13








                “มะ...มาร์ค พอก่อนกุนบีบไหล่คนโตกว่าแน่น เมื่อมาร์คเริ่มเลียรอบๆแผ่นอกบางผ่านเนื้อผ้า พร้อมกับมือที่บีบคลึงอีกข้างจนต้องขอให้หยุดก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
                แต่เหมือนมาร์คจะไม่ฟังกันเลยกลับยิ่งแกล้งใช้ลิ้นกับตรงนั้นจนกุนต้องจิกเล็บลงบนไหล่แน่น แอ่นอกให้อีกคนสัมผัสแบบไม่รู้ตัว
                กระดุมหลุดออกจากกันตั้งแต่เม็ดล่างไล่ขึ้นมาจนเปิดเผยให้เห็นสัดส่วนช่วงบนของคนตัวเล็กแบบเต็มๆตา มาร์คไล่ลิ้นร้อนสัมผัสไปทั่ว จูบลงบนตัวของคนตัวเล็กเบาๆให้อีกคนรู้สึกแปลกประหลาด ลูบไล้ช่วงเอวเว้าที่เล็กเกินกว่าผู้ชายคนไหนๆ ก่อนจะเลียรอบแอ่งสะดือสัมผัสมันจนกุนเกร็งและเสียวไปทั้งท้อง
                “มาร์ค…” กุนอยากจะเอ่ยปากห้ามแต่คงไม่ทันแล้วเมื่อส่วนนั้นของตนมันตื่นตัว เขาอยากจะผลักมาร์คออก แต่มาร์คกลับครอบครองมันด้วยมือเรียวของตัวเอง
                มาร์คชักรูดไปตามความยาวช้าๆจนกุนแทบทนไม่ไหว จับมืออีกคนให้เร่งความเร็วเพราะอยากจะปลดปล่อยเสียที แต่มาร์คทำแบบนั้นไม่นานก็ปล่อยมือออกเหมือนกับต้องการจะแกล้งให้อีกคนทนทรมาน
                “มาร์ค...อย่าทำแบบนี้เหงื่อที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้าทั้งๆที่ห้องทั้งห้องเย็นเฉียบบวกกับสีหน้าทรมานของอีกคน มันยิ่งทำให้มาร์คอยากจะแกล้งเข้าไปอีก
                “อยากให้มาร์คช่วยมั้ยมาร์คมองเล็กที่พยายามทำตามเขา แต่ก็เหมือนจะทำไม่เป็นและไม่ได้อย่างใจ
                กุนพยักหน้าให้กับคำถามเมื่อความตรงการมันมากเกินกว่าจะต้องมาอายคนตรงหน้า
                “ต้องทำให้มาร์คด้วยนะ เข้าใจมั้ยตอนนี้มาร์คจะพูดอะไรก็ยอมทุกอย่าง กุนเร่งมือตัวเองเพราะความต้องการที่มีมากแล้วอยากปลดปล่อยเสียที
                มาร์คมองสีหน้า ท่าทางของอีกคนก่อนจะก้มลงไปประกบมือกุนเอาเอาไว้เหลือที่เพียงส่วนหัว ก้มลงครอบครองส่วนนั้นด้วยปาก ใช้ลิ้นหยอกล้อมัน ก่อนจะดึงมือกุนออก ครอบครองความเป็นชายของหลานรักด้วยปากเพียงอย่างเดียว
                กุนยกมือขึ้นปิดปาก กัดริมฝีปากล่างของตัวเองจนเจ็บไปหมด เขากลัวว่าเสียงของเขามันจะดังจนคนข้างนอกและข้างห้องได้ยิน
                ไม่นานหรอก ไม่นานเลยจริงๆ ที่มาร์คปรนเปรอส่วนนั้นจนกุนปลดปล่อยออกมา อกบางกระเพื่อมตามลมหายใจเข้าออก ไม่ทันสังเกตว่ามาร์คแกะปมผ้าเช็ดตัวออกตอนไหน
                “มาร์คไม่เข้ามาได้ไหมคำร้องขอคนที่อยู่บนเหนือร่างและหันมามองด้วยสายตาเว้าวอนแบบนั้นทำให้มาร์คใจอ่อน แต่
                “ได้ มาร์คจะไม่เข้าไปในตัวกุนกุนคิดว่ามาร์คไม่โกหกหรอก คงไม่สอดใส่เขามา แล้วยิ่งรับปากแบบนั้นแล้ว ก็คงไม่ทำ ถึงได้ยอมอยู่ในท่าที่มาร์คจัดแจง ลองทำในสิ่งที่มาร์คทำกับตน ลิ้นเล็กเลียนแบบสัมผัสที่อีกคนเคยมอบให้ช้าๆ ก่อนจะเร่งจังหวะจนได้ยินเสียงครางในลำคอของคนโตกว่า
                สะโพกที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ไม่อาจจะทำให้มาร์คอดใจไหว เขาจับแก่นกายของกุนที่กำลังตื่นตัวอีกครั้ง หลอกล้ออีกคนที่มอบความสุขให้อยู่ ก่อนที่เขาจะเลียนิ้วตัวเองทั้งสามนิ้ว กดมันลงที่ช่องทางรัก
                เพียงนิ้วแรกก็ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้ง แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ เมื่อมาร์คเร่งมือที่จับส่วนกลางลำตัว และส่งนิ้วร้อนนิ้วที่สองที่สามเข้าไปพร้อมกัน ดึงเข้าดึงออกเหมือนรู้ดีว่าจุดไหนที่จะทำให้กุนต่อต้านไม่ได้
                “ถ้ามาร์คไม่เสร็จอย่าหวังว่ามาร์คจะหยุดนะคนดีกุนขอเกลียดมาร์คหนึ่งวันได้ไหม คนโกหก ไหนว่าจะไม่สอดใส่เข้ามาไง แล้วไอ้สามนิ้วนั้นคืออะไร
                กุนหยุด มาร์คก็หยุดตาม เหมือนบังคับกลายๆให้กุนยอมที่จะเร่งลิ้นร้อนให้มาร์คปลดปล่อยเสียที สองมือเล็กจับขาของคนโตกว่าแน่น จิกเล็กลงบนขาของอีกคนที่มาร์คแตะโดนจุดกระสัน มาร์คเร่งมือเพื่อให้กุนเร่งตาม และไม่นานกุนก็ปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่สอง ก่อนจะหมดแรงทิ้งตัวทับออกอีกคนเมื่อมาร์คปลดปล่อยตามกันมาติดๆ





วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ซ่อน 10 NC





มาร์ค ฮืออ พอก่อนได้ไหม อ้ะมาร์คไม่ได้ฟังเสียงห้ามปรามใดๆเลย มือเรียวหายเข้าไปในกางเกงขาสั้น ที่ไม่ว่าจะล้วงตรงไหนก็ง่ายที่จะเข้าไปสัมผัสตัวตนของกุนได้ทั้งนั้น
เด็กดื้อของมาร์ค ไม่ระวังตัวเองเลย ต้องลงโทษให้เข็ด จะได้จำว่าไอ้เสื้อยืดคอกว้างกับกางเกงขาสั้นมันอันตรายขนาดไหน
มาร์ค
ครับกุนเกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายได้ไหม ทำไมมาร์คถึงได้เป็นคนแบบนี้กันนะ
มะ...มาร์ค อย่า...อย่า...มันสกปรก...อ้ะ…” เพียงแค่ลิ้นร้อนสัมผัสแก่นกลางความเป็นชายผ่านอันเดอร์แวร์ ก็ทำให้คนไม่เคยแทบจะดิ้นผ่าน แต่มาร์คกับจับเอวไว้แน่น รูดเอาทั้งกางเกงและอันเดอร์แวร์ทิ้งอย่างไม่ใยดี ดึงมือของกุนมาวางที่มันแล้วบังคับให้กุนจับแล้วขยับตามที่มาร์คสอน ก่อนที่มาร์ตจะขยับขึ้นไปสอนจูบที่เป็นผู้ใหญ่ให้กับหลานรัก
กุนไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มาร์คเหมือนกำลังทำให้ร่างกายเขาร้อนไปเสียทุกส่วน สอนในสิ่งที่เขาไม่เคยทำ ไม่เคยสัมผัส และคิดว่าชาตินี้ก็คงไม่มีใครจะได้สัมผัส
แต่ตอนนี้มาร์คทำมันแทบทุกอย่าง
มาร์ครักแบมนะครับสิ้นคำบอกรัก มาร์คก็รีบขยับมือไปตามความยาว จูบปิดปากอีกคนเพื่อไม่ให้เสียงมันดังออกไปยังห้องข้างๆ ขยับมันเร็วเสียจนกุนทนไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนเต็มฝ่ามือของคนโตกว่า
ตามาร์คบ้างแล้วนะคนดี
ใครจะยอมให้เด็กน้อยสบายตัวไปคนเดียว กุนได้แต่นอนหอบหายใจก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออีกคนไม่ได้แค่ถอดเสื้อแบบที่เคยเห็น มาร์คถอดทุกชิ้นออกจาร่างกายตัวเอง
มาร์คจับอีกคนพลิกขึ้นมานั่งบนตัก จูบปิดปากเสียงโวยวายของอีกคนก่อนที่จะจับเอาแก่นกายทั้งของตัวเองและกุนจับมันลูบไล้ไปพร้อมๆกัน
มาร์คปลุกให้มันตื่นอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงจูบ ดูดดึงริมฝีปากอวบอิ่มของอีกคน จับมือกุนให้จับตรงที่มาร์คเคยจับ สัมผัสมันแบบที่มาร์คเคยสอน
มือของมาร์คลากไล้ลงบนเผ่นหลังตามแนวยาวก่อนจะบีบเข้าที่สะโพกเปลือยเปล่าอย่างหมั้นเขี้ยว นิ้วเรียวหายเข้าไปในช่องทางรัก เมื่อเด็กน้อยกำลังเคลิ้บเคลิ้มกับรสจูบ มาร์คส่งมือข้างที่ว่างมาบีบเค้นหน้าอก เพิ่มความเสียวและเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งที่เขากำลังทำ
นิ้วที่สองตามเข้าไป มาร์คดึงเข้าดึงออกจนกุนขยับหนี แต่คนอย่างมาร์คมีหรือจะยอม เขาจับล็อกเอวอีกคนเอาไว้แน่น เร่งมือสีจนได้ยินเสียงครางอื้ออึงจากอีกฝ่าย ก่อนจะดึงนิ้วทั้งสองออกมาแล้วใสกลับเข้าไปใหม่
กุนได้แต่ส่ายหน้าลงบนไหล่กว้างจนผมปลิว มาร์คไม่ได้ทำแค่ข้างหลัง แต่กำลังชักรูดข้างหน้าของเขาที่เพิ่งปลดปล่อยได้ไม่นาน ให้มันกลับมารู้สึกอีกครั้ง
ปากบางกดจูบลงบนคอลากมาถึงไหล่ของคนที่กำลังกัดไหล่เขาระบายเจ็บและความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
มาร์คไม่ปล่อยให้ตัวเองทรมานได้นาน เขาดึงมือตัวเองออก ก่อนจะดึงอีกคนให้ยกสะโพกขึ้น
เจ็บหน่อยนะคนดีกุนยังไม่เข้าใจว่ามีอะไรที่เจ็บกว่าเมื่อกี้อีกเหรอ
มาร์คถูแก่นกายตัวเองที่ช่องทางรัก ก่อนจะกดมันเข้าไป น้ำตาและนิ้วทั้งสิบที่กดลงบนไหล่ มันบ่งบอกว่าอีกคนกำลังเจ็บ มาร์คถึงได้เข้าไปจูบปลอบประโลม พยายามใจเย็นกับกุนให้มากที่สุด เพราะเขารู้ว่ากุนไม่เคย และมีใครได้แตะต้องมัน
เชื่อใจมาร์คนะ อดทนอีกนิดนะคนดีพูดจบก็สวนสะโพกเข้าใส่ ปล่อยให้กุนน้ำตาไหลและกัดลงบนไหล่ตัวเองแรงๆ มาร์คทนเจ็บ และแช่แก่นกายข้างเอาไว้ ยังไม่ยอมขยับจนรู้สึกว่ากุนเริ่มผ่อนคลายขึ้น
ลองขยับมั้ยกุนส่ายหน้าปฏิเสธทันที เขาทำไม่เป็น
งั้นมาร์คทำเองนะมาร์คพลิกตัวให้กุนนอนลงกับเตียงนิ่ม ค่อยๆขยับสะโพกช้าๆ ก่อนจะเร็วขึ้นจนกุนหลุดเสียงครางออกมา แต่มาร์คเอื้อมมือไปปิดปากได้ทัน
เบาๆครับ เดี๋ยวคนข้างนอกได้ยินมาร์คเอามือออก เพราะกุนยกมือตัวเองขึ้นปิดปาก
มาร์คไม่เคยรู้สึกดีอะไรขนาดนี้มาก่อน เขาสวนสะโพกเข้าหาอีกคน ครางในลำคออย่างสุขสม แม้ว่าจะต้องทำอะไรๆให้มันเบาที่สุด แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาของมาร์คเลยสักนิด
อ้ะ! มาร์ค….มาร์คเบาหน่อย...อ้ะๆ...กุนบีบไหล่อีกคนแน่น ยามที่มาร์คเร่งความเร็วและไม่ออมแรงเลยสักนิด จากตอนแรกที่เจ็บจนเหมือนร่างกายเขาจะแตกออก ตอนนี้มันกลับรู้สึกเสียวไปหมด
กุนมาร์คเพียงเรียกชื่อ แล้วส่งมือมาจับกึ่งกลางลำตัวของเขา เราขยับไปพร้อมกันจนสุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็ก็ปลดปล่อยมันออกมา
มาร์คถอนแก่นกายออกมาจนถึงปากทาง แล้วกระแทกมันเขาไปอีกจนน้ำสีขาวขุ่นไหลเปรอะเต็มที่นอน ทำอยู่อย่างนั้นจนมันตื่นมาอีกรอบ และต้องเป็นกุนที่รองรับบทรักที่ไม่รู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่








ฝากกลับไปคอมเมนท์ที่เด็กดีด้วยนะคะ ถ้าไม่มีคอมเมนท์ขออนุญาตลบ NC ตอนนี้นะคะ

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Chapter12




พะ...พี่มาร์คเสียงห้ามปรามของเเบมเเบมไม่เคยเป็นผลกับมาร์ค เมื่อมาร์คใช้ลิ้นสัมผัสกับส่วนนั้นของเขาผ่านเนื้อผ้า ลิ้นร้อนๆสัมผัสมันเเบบเน้นๆจนเเบมเเบมเริ่มอยากจะดิ้นหนี เเต่ติดตรงที่มาร์คล็อกเอวเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน

ความรู้สึกที่มาร์คมอบให้มันเเปลกใหม่กับคนที่ไม่เคย ครั้งที่เเล้วเขาเเทบจะจำอะไรไม่ได้ เเต่ครั้งนี้มันเหมือนคนที่พอมีสติอยู่น้อย เเต่ก็พอจะรู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ความรู้สึกตอนนี้มันชักเจน

ปราการชิ้นสุดท้ายไม่อาจจะปกปิดสิ่งที่เเบมเเบมพยายามห้ามปรามไม่ให้มาร์คสัมผัสเมื่อมาร์คดึงมันออกเเละโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

เเบมเเบมกำลังรู้สึกเหมือนหน้าเขาจะระเบิด มันร้อนไปหมดเมื่อมาร์คจ้องส่วนนั้นของเขาก่อนเลียริมฝีปากของตัวเอง

เขาไม่รู้ว่ามาร์คจะทำอะไรต่อจากนี้ เเบมเเบมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง

เเต่ใครจะนึกว่ามาร์คจะก้มลงไปครอบครองส่วนนั้นของเขาด้วยปาก ทำมันเเบบที่เเบมเเบมไม่ทันตั้งตัว

สมองเขาสั่งให้เอ่ยปากห้าม เเต่ทำไมมันถึงได้...เปลี่ยนเป็นเสียงน่าอายเเทน

พะ...พี่มาร์ค...พี่มาร์ค...อ่าาาเขาห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่ เมื่อน้ำรักสีขาวมันถูกปลดปล่อยออกมาเอง เเบบที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มาร์ครับมันไป

มาร์คไม่ได้คายทิ้งกลับอมเอาไว้เเล้วดึงคนใต้ร่างมาจูบ เเบมเเบมรับมันเข้าไปเเบบไม่ยินยอม เเต่มาร์คก็ป้อนมันเข้าไป บังคับให้กลืนกินอย่างจำยอม ก่อนที่มือเรียวจะจับมันอีกครั้ง

ไหล่ของคนพี่กลายเป็นที่ระบายความเสียวของเเบมเเบมไปเเล้ว เล็บของเเบมเเบมมันยาวจนจิกเข้าที่ไหล่เเล้วมาร์คเจ็บไปหมด เเต่มาร์คก็ไม่หยุดทำให้อีกคน ในเมื่อเขาชอบที่ได้เห็นใบหน้าของคนตัวเล็กตอนที่เขาทำให้

เเบมเเบมปล่อยน้ำรักออกมาอีกครั้ง น้องหายใจอย่างเหนื่อยหอบเหมือนคนจะหมดเเรง เเต่คืนนี้มาร์คไม่มีทางปล่อยให้เเบมเเบมหมดเเรงไปง่ายๆหรอก ถ้าเขายังไม่ได้ปลดปล่อย

มาร์คพลิกตัวคนที่นอนอยู่ใกลับขึ้นมาอยู่บนตักเขาอีกครั้ง ป้อนจูบเเสนเอาเเต่ใจพร้อมกับมือที่ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก เขาขยับคนที่นั่งทับตักให้ลุกขึ้นเพื่อถอดกางเกงตัวเองออกจนหมด ปล่อยให้เเบมเเบมพักหายใจก่อนจะจูบลงไปอีก มือเรียวควานหาของสะเปะสะปะก่อนจะเปิดลิ้นชักออก หยิบเอาเจลล่อลื่นที่เเอบไปซื้อทิ้งไว้ออกมาชะโลมเข้าที่นิ้วเรียวของตัวเอง

เเบมเเบมไม่เคยจะรับรู้อะไรทั้งนั้น เพราะมาร์คหลอกล่อด้วยจูบที่เหมือนจะสอน เเต่บางครั้งก็เหมือนกับเเกล้งเขาเหมือนกัน จนกระทั่งรับรู้ถึงสิ่งเเปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย

มาร์คไม่ได้ใจดีที่จะสอดใส่เข้าไปทีละนิ้ว ครั้งนี้มาร์คใจร้ายที่เอามันเข้าไปพร้อมกันถึงสองนิ้ว เพราะความอดทนที่มีเริ่มเหลือน้อยเต็มทน

เเบมเเบมสะดุ้งเหมือนอยากจะดิ้นหนีความเจ็บนี้ที่เขาอาจจะเคยสัมผัสเเต่จำมันไม่ได้

มาร์คไม่ยอมปล่อยให้เเบมเเบมดิ้นหนีง่ายหรอกเเละเขาก็ไม่คิดจะเเช่มันค้างเอาไว้ เมื่อนิ้วเรียวขยับเข้าออกเเบบถี่ๆจนเเบมเเบมจะทนไม่ไหว มาร์คเลยใช้มืออีกข้างจับเอาเเบมเเบมน้อยมารูดจนสุดความยาว

เเบมเเบมปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่สามมาร์คถึงถอนจูบเมื่อนิ้วทั้งสามนิ้วเข้าไปในช่องทางรักเเละคงจะพร้อมให้ส่วนใหญ่โตของเขาเข้าไปเเล้ว

มาร์คคิดเอาเองทุกอย่างนั่นเเหละ ไม่ถามคนข้างบนที่เจ็บจนต้องระบายความเจ็บลงบนไหล่สักนิด เเบมเเบมกัดลงบนไหล่ของคนที่ทำให้เขาเจ็บขนาดนี้

เเบมเเบม...อย่าทำกับพี่เเบบนี้มาร์คไม่อาจจะเข้าไปจนสุด ถ้าเเบมเเบมยังเกร็งเเละตอดรัดเขาเเบบนี้
มองหน้าพี่หน่อยคนดีมาร์คกัดฟันเเน่น เมื่อช่องทางด้านหลังของเเบมเเบมมันทำให้มาร์คจะเริ่มทนไม่ไหว หากช้ากว่านี้มาร์คคงต้องใส่เข้าไปจนสุด ไม่ห่วงเรื่องที่น้องต้องเจ็บ

เเต่เพราะเขายังเเคร์น้องอยู่ มาร์คเลยต้องหาอย่างอื่นมาหลอกล่อ

ให้พี่เข้าไปนะ...นะ...นะเเบมนะเเบมเเบมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง เขาเจ็บจะตายอยู่เเล้ว เเต่เห็นสีหน้าของมาร์ค เขาจะยอมบอกให้มาร์คเอาออกไปได้ลงหรอ

ครั้งนี้มาร์คไม่ได้เริ่มก่อน เเบมเเบมน่ะเริ่มที่จะใช้วิธีเดียวกันกับมาร์ค ปากอิ่มครอบครองริมฝีปากของคนเป็นพี่ พยายามทำเเบบที่มาร์คทำกับตัวเอง เพื่อให้เลิกจดจ่อกับความเจ็บด้านหลัง

มาร์คเองก็อยากจะให้รางวัลเด็กดี จากที่เเบมเเบมเริ่มเปลี่ยนเป็นเขาที่ไล้ต้อนจนเเบมเเบมเเบมตามไม่ทัน

เขาไม่ได้ขยับ ปล่อยให้ส่วนนั้นเเช่ค้างไว้ข้างในโพรงอุ่น เมื่อเเบมเเบมยังสนุกกับการไล่ต้อนเขาคืน เขาก็จะปล่อยให้เด็กคนนั้นเล่นไป

เเต่ใจดีได้ไม่นานหรอก มาร์คจับเอวคนตัวเล็กยกขึ้นเบาๆก่อนจะปล่อยเเบมลง ทำอยู่อย่างนั้นจนเขาต้องเลิกจูบเเล้วบอกให้เเบมเเบมลองขยับเองบ้าง

เขาเห็นถึงความไม่มั่นใจในสายตาของน้อง เเต่จะอยู่กันอย่างนี้ทั้งคืนก็คงไม่ไหว มาร์คพยักหน้าให้นักเรียนของเขาเริ่มลองทำเองดู

ใบหน้าน่ารักขึ้นสีเมื่อลองขยับอย่างที่มาร์คสอน การกระทำของเเบมเเบมมันทำให้มาร์คทนไม่ไหว เเบมเเบมน่ะน่ารักเกินไป ใครทนได้ก็ทน เเต่เขาไม่สามารถจริงๆ มาร์คส่วนสะโพกขึ้นไปบ้าง จนเเบมเเบมต้องหาที่เกาะ ก่อนที่มาร์คจะเปลี่ยนให้คนตัวเล็กลงมานอนเเทน

มาร์คค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆ เเต่เมื่อจ้องมองใบหน้าเเบมเเบม ปากอิ่มที่ที่ถูกมือยกขึ้นปิดเมื่อเขากระเเทกลงไปโดนจุดกระสันของอีกคน

มาร์คอยากได้ยินเสียงหวานครางชื่อเขาถึงได้เอาเเต่ใจ จับมือเเบมเเบมออกก่อนจะกระเเทกเข้าไปเร็วๆจนเเบมเเบมสั่นไปทั้งตัว

เสียงครางหวานหูมันทำให้มาร์คพอใจ เเต่ยังไม่ปลดปล่อยออกมา เขาเอื้อมมือไปจับกึ่งกลางลำตัวของเเบมเเบมพร้อมกับดึงมือเล็กมาจับมันด้วย

เเบมเเบมเองเริ่มจะทนไม่ไหว เมื่อมาร์คทำมันทั้งด้านหน้าด้านหลัง สุดท้ายก็ปลดปล่อยออกมาอีก มาร์คกระเเทกเข้าเข้าไปอีกครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักตัวเองออกมา เขาถอนความเป็นชายออกมาช้าๆเเละใส่กลับเข้าไปใหม่จนเเบมเเบมสะดุ้ง

บทรักเเรกพึ่งจบลง เเต่ไม่ใช่ว่ามาร์คจะพอ เขาไม่หยุดง่ายๆหรอก หากเขาหรือเเบมเเบมยังไม่มีใครหมดเเรงกันไปซะก่อน

ตอนนี้เขาไม่มีเเฟนเป็นตัวเป็นตน เป็นคนโสดเเล้วจริงๆ เเละอีกไม่นาน คนที่นอนอยู่ใต้ร่างเขาเนี่ยเเหละจะกลายมาเป็นเเฟนเขา

มาร์คไม่สนหรอกว่าใครจะว่ายังไง เป็นเเฟนกับน้องชายของเเฟนเก่าเเล้วมันยังไง ในเมื่อเขาห้ามความรู้สึกของเขาไม่ได้ เเละเขาเองก็จะทำให้เเบมเเบมยอมรับความรู้สึกตัวเองให้ได้ด้วย

ถ้าอยู่ไทยเเล้วกลัวสายตาชาวบ้าน เขาจะพาน้องไปเเอลเอเอง ในเมื่อพ่อเเม่เขาเองก็เอ็นดูเเบมเเบมขนาดนั้น ปัญหาเรื่องพ่อเเม่สามีไม่ปลื้มลูกสะใภ้ก็คงไม่เกิดกับเขาหรอก


















อย่าลืมกลับไปคอมเมนท์ที่ Dek-D นะคะ